|
ห้องพระ |
|
|
|
ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ทำจิตให้เบิกบานผ่องใส อย่าตั้งจิตอย่างเคร่งขรึม จนเคร่งเครียด
แล้วไหว้พระ สวดมนต์ วิจารเคล้าจิตจนกายสงบระงับดีแล้ว ย่อมเป็นสุข เมื่อเป็นสุข จิตย่อมตั้งมั่น
แล้วควรดำเนินการเจริญวิปัสสนา โดยนำธรรมที่สวดหรือศึกษาหรือเตรียมการ มาคิดพิจารณา อย่างมีเหตุมีผลต่อเนื่องไปอยู่เนืองๆ
อันจักยังให้เกิดทั้งบุญทั้งกุศลสูงยิ่งๆขึ้นไปอีก
สวดมนต์ แต่ฝ่ายเดียว ได้สติและสมาธิ
สวดมนต์พร้อมทั้งทราบความหมายหรือคำแปล ได้ทั้งสติ,สมาธิและปัญญา
สวดมนต์พร้อมทั้งทราบความหมายหรือคำแปล พร้อมทั้งพิจารณา(เจริญวิปัสสนา) ได้ทั้งสติ, สมาธิและปัญญา อันยิ่ง !!!
ขยายความ - การสวดมนต์ได้ สติและสมาธิ กล่าวคคือ ผู้ตั้งใจมั่นในการสวด ย่อมต้องมีสติตั้งใจมั่น และยังต้องมีจิตที่แน่วแน่อยู่กับอารมณ์ อันคือสมาธินั่นเอง อารมณ์ที่จิตไปกำหนดหมายหรือยึดเหนี่ยวไว้ในขณะนั้นๆก็คือคำสวดนั่นเอง ดังนั้นการสวดมนต์ ท่องมนต์ จึงยังผลให้เกิดสติและสมาธิได้โดยไม่รู้ตัว ดังที่ได้กล่าวแสดงไว้ข้างต้น
- ในขณะที่สวดมนต์ดังกล่าวนั้น ถ้าจิตเข้าใจคำแปลหรือความหมายถึงสิ่งที่บริกรรมท่องบ่น และจิตย่อมมีการพิจารณาตามในขณะนั้นๆ(หรืออาจในภายหลัง) ขณะจิตนั้นเอง จิตย่อมมีความสงบ ไม่ซัดส่าย ไม่ส่งส่ายออกปรุงแต่งภายนอก เหมือนเยี่ยงในชีวิตประจำวันทั่วไป, และในขณะสวดนั้นเอง จิตพิจารณาขบคิดตามไปด้วย จึงย่อมยังให้เกิดปัญญาขึ้นในที่สุด กล่าวคือเกิดการกระทำวิปัสสนาไปด้วยในที จึงกล่าวแสดงไว้ว่าได้ทั้ง สติ สมาธิ วิปัสสนา กล่าวคือปัญญาอันเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ดับทุกข์ ย่อมค่อยๆงอกงามเจริญเกิดขึ้น จากการพิจารณาอยู่เนืองๆนั่นเอง
เพราะย่อมเกิดขึ้นและเป็นไปดังหลักเหตุและปัจจัย ดังนี้
"สมาธิปริภาวิตา ปญฺญามหปฺผลา โหติ มหานิสํสา"
สมาธิ เป็นเครื่องหนุน ปัญญา
(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากไหว้พระหน้าคอม)
|