ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม
แรกตรัสรู้พระพุทธองค์ไม่น้อมไปเพื่อประกาศธรรม คือเผยแผ่พระศาสนา เนื่องจากความลึกซึ้งของปฏิจจสมุปบาทและนิพพาน
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒)
[๓๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราได้มีความดำริดังนี้ว่า ธรรมที่เราได้บรรลุนี้แล ลึก
เห็นได้โดยยาก รู้ตามได้โดยยาก เป็นธรรมสงบ ประณีต อันความตรึกหยั่งไม่ถึง ละเอียด รู้ได้แต่บัณฑิต
ส่วนประชาชน(ทั่วไป)นี้ (ซึ่งยัง)เป็นผู้ยินดี เพลิดเพลินใจในอาลัย(ตัณหา)
เป็นผู้เห็นปฏิจจสมุปบาทที่เป็นปัจจัยแห่งธรรมเหล่านี้ได้โดยยาก
และเห็นได้โดยยากซึ่งธรรมที่สงบสังขารทั้งปวง สลัดอุปธิทั้งปวง
เป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่สำรอก เป็นที่ดับ เป็นที่ออกจากตัณหา(หมายถึง นิพพาน)
ก็ถ้าเราพึงแสดงธรรมและคนอื่นไม่รู้ตามธรรมของเรา ก็จะเป็นความลำบาก เหน็ดเหนื่อยแก่เราเปล่า.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทั้งคาถาที่เป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก ไม่เคยได้สดับมาแต่ก่อน ก็ได้แจ่มแจ้งแก่เราดังนี้
ธรรมนี้ เราบรรลุได้โดยยาก บัดนี้ ไม่ควรประกาศ
ธรรมนี้ ไม่เป็นธรรมที่ชนผู้มีราคะโทสะหนาแน่นตรัสรู้ได้โดยง่าย
ชนผู้มีราคะกล้า ถูกกองความมืดหุ้มห่อไว้ ย่อมไม่เห็นธรรม
ที่ยังสัตว์ให้ถึงที่ทวนกระแสโลก ละเอียด ลึก เห็นได้โดยยากเป็นอณู.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเราคิดเห็นเช่นนี้ ก็มีจิตน้อมไปเพื่อความเป็นผู้ขวนขวายน้อย ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม.
(ในเบื้องต้นแรกตรัสรู้ พระองค์ท่านจึงน้อมจิตไปในทางไม่ประกาศธรรมหรือพระศาสนานี้แก่ชาวโลก ก็ด้วยเหตุผลดังข้างต้น)
มีพุทธพจน์ตรัสเตือนไว้ ไม่ให้ประมาทหลักปฏิจจสมุปบาทนี้