แสดง ขันธ์๕ ที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นความทุกข์ |
|
เป็นการพิจารณาในแบบขันธ์ ๕
(ควรมีความเข้าใจปฏิจจสมุปบาท หรือขันธ์๕ พอสมควร)
รูป
เสียง
วิญญาณ
ผัสสะ
สัญญาจำ
เวทนา
สัญญาหมายรู้
สังขารขันธ์
กาย วาจา ใจ
ดังในกรณีที่ ได้ยินเสียงด่า เสียงว่า หรือเสียงอันก่อให้เกิดความไม่พอใจ
หู
เสียงด่าทอ
วิญญาณ
ผัสสะ
สัญญาจำ
ทุกขเวทนา
สัญญาหมายรู้
สังขารขันธ์
ชนิด โทสะ
โทสะ อันแสดงออกมาได้ทั้งทางกาย วาจา และใจ
ในบางครั้งเกิดโทสะ แสดงเด่นชัดออกมาทางจิตสังขารหรือมโนกรรม(ความคิดนึกนั่นเอง)คือใจโกรธไม่พอใจ แต่เพียงอย่างเดียว
โทสะ หรือสังขารขันธ์แรก(ผล) ที่เกิดขึ้นจากการกระทบผัสสะนี้ เป็นไปตามกระบวนธรรมชาติของชีวิต
อันย่อมมีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ดังเป็นไปดังคำกล่าวที่ว่า โกรธมี.......แต่ไม่เอา ของท่านหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ใจ หรือ ความคิด อันเป็นสังขารขันธ์ชนิดโทสะหรือความโกรธที่เกิดขึ้นนั้น โดยปกติวิสัยปุถุชน ก็จะคิดนึกปรุงแต่งต่อไปอีก
โดยไม่รู้ตัว หรือ รู้ตัวแต่ห้ามไม่ได้เพราะอวิชชา(ความไม่รู้ตามความเป็นจริง)และกำลังของโทสะ และขาดการปฏิบัติฝึกฝน
จึงเกิดกระบวนการจิตต่อเนื่องขึ้นดังต่อไปนี้เป็นธรรมดา โดยเอาผลที่เกิดขึ้นอันคือความคิดนึกที่มีโทสะเกิดขึ้นแล้วมาปรุงแต่งต่อ
ความคิดนึกที่มีโทสะเกิดขึ้นแล้วใจ
วิญญาณ
ผัสสะ
สัญญาจำได้
ทุกขเวทนา
หมายรู้ในโทสะ
สังขารขันธ์
คิดนึกอกาการโทสะอย่างเดิม
จึงเป็นไปดังนี้
รูป
- ธรรมารมณ์ + ใจ + มโนวิญญูาณขันธ์
เวทนาขันธ์
ขันธ์ทั้ง๕
สังขารขันธ์ เกิดมโนกรรม
สัญญาขันธ์
(ซึ่งถ้าพิจารณาจากปฏิจจสมุปบาท ก็คือ ขันธ์ต่างๆที่เกิดใหม่นี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอุปาทานขันธ์ทั้ง๕ ในชราแล้วนั่นเอง)
แล้ว ความคิดนึกชนิดโทสะอย่างเดิม ก็ถูกหยิบยกไปทำหน้าที่เป็นรูป(สิ่งที่ถูกรู้)ใหม่อีกเช่นเดิม
ความคิดนึกชนิดโทสะอย่างเดิมใจ
วิญญาณ
ผัสสะ
สัญญาจำได้
ผัสสะ
ทุกขเวทนา
หมายรู้ในโทสะ
สังขารขันธ์
คิดนึกชนิดโทสะมากขึ้นกว่าเดิม
ย่อลงได้เป็นดังนี้
รูป
ใจ
วิญญาณ
ผัสสะ
เวทนา
สัญญา
สังขาร
ซึ่งล้วนแต่ถูกอุปาทานครอบงำแล้ว จึงนำเขียนแสดงในรูปของอุปาทานขันธ์๕ ได้โดยตรง ดังนี้
รูปูปาทานขันธ์
ใจ
วิญญาณูปาทานขันธ์
ผัสสะ
เวทนูปาทานขันธ์
สัญญูปาทานขันธ์
สังขารูปาทานขันธ์
วนเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในวังวนของความคิดนึกชนิดโทสะต่างๆเหล่านี้ ที่ก่อให้เกิดไฟโทสะเผาลนจิตจนร้อนลุ่ม
รูปูปาทานขันธ์24
+ ใจ + วิญญูาณูปาทานขันธ์25 เวทนูปาทานขันธ์26
อุปาทานขันธ์๕(14
)อันเกิดวนเวียนอยู่ในชราอันเป็นทุกข์
สังขารูปาทานขันธ์ มโนกรรมคิดที่เป็นทุกข์ 28
สัญญูปาทานขันธ์27
(รูปแสดงอุปาทานขันธ์ ๕ ที่ทำงานต่อเนื่องสัมพันธ์กันอย่างวนเวียนเป็นวงจรของทุกข์์)
จึงเกิดเป็นโทสะหรือความทุกข์อันเกิดแต่ทั้งทุกขเวทนาและสังขารขันธ์ทุกข์ เป็นไปอย่างเป็นระยะๆหรืออย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เผาลนจิตใจอย่างต่อเนื่อง
เพราะมิได้หยุดหรือไม่มีกำลังหยุด ล้วนเพราะอวิชชาจึงขาดปัญญาพละ ในการหยุดคิดนึกปรุงแต่งต่างๆเหล่านั้น