ควรอ่านเรื่อง ฌาน สมาธิ ก่อน

        ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งในเด็กสมัยนี้ก็คือสมาธิสั้น  ซึ่งมีเปอเซ็นต์เพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ  ซึ่งล้วนเป็นไปตามลำดับตามวิวัฒนาการของโลกทางด้านวัตถุ เพื่อตอบสนองความต้องการ   โดยเฉพาะความเจริญทางด้านคอมพิวเตอร์ที่ได้เจริญไปอย่างมากมาย  จึงเกิดการพัฒนาวิดิโอเกมต่างๆขึ้นเป็นจำนวนมากและมีราคาถูกลงเป็นลำดับ  จนสามารถหามาครอบครองซื้อขายกันได้ง่ายๆ จึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก  ซึ่งล้วนแล้วแต่เน้นให้ ดึงดูดใจด้วยความสวยงาม ตื่นเต้น เร้าใจ ชวนให้ร่วมเล่นด้วยยิ่งนัก  เหล่านี้คือปัญหาใหญ่ของสังคมที่เกิดขึ้นกับเด็กๆต่อไปในอนาคตโดยไม่รู้ตัว   สมาธิสั้นที่จะกล่าวนี้ต่อไปนี้ จึงเป็นเรื่องของสมาธิสั้นที่มิได้เกิดแต่กายหรือกรรมพันธ์เป็นเหตุ  แต่เกิดจากเหตุปัจจัยบางประการอันเนื่องมาจากจิต ที่ทำให้เด็กเป็นสมาธิสั้นได้ จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นในปัจจุบันจนเป็นที่น่าตกใจ  และผู้เขียนได้รับปากว่าจะเขียนเป็นเวลานานเป็นปีแล้วตามที่กล่าวไว้ในเรื่องติดสุข  จนมีผู้ทวงถามผู้เขียนขึ้นมา  จึงขอกล่าวไว้เพื่อยังประโยชน์แก่พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆทั้งหลาย ตลอดจนจิตแพทย์

         ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจให้กระจ่างถูกต้องเสียก่อนรู้ทั้งคุณและโทษ  ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆลงไป  เพราะคอมพิวเตอร์อันมักมีเกมต่างๆแอบแฝงมาด้วยนั้นก็เป็นคุณอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งจำเป็นตามยุคสมัยสำหรับเด็กๆในภายภาคหน้าในทางโลก ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ พัฒนาเพื่อใช้ในทางโลกๆเพื่อยังชีวิตต่อไปตามสมมติโลก   แต่ก็ควรเข้าใจถึงโทษด้วยเช่นกัน  เมื่อรู้เหตุ จะได้พิจารณาป้องกันหรือแก้ไขได้อย่างถูกต้องดีงาม  เพราะดังที่กล่าวไว้อยู่เสมอๆว่า ทางสายกลาง จึงไม่มีสิ่งใดที่ดีไปหมด หรือชั่วไปหมด  ขึ้นอยู่กับท่านที่เป็นผู้ใช้   ดังเช่น  อย่าสนับสนุนให้เด็กเล็กเล่นโดยตัวท่านเอง เช่น ซื้อให้โดยเด็กไม่ได้ร้องขอแต่เพราะความรักลูก หรือเล่นเป็นตัวอย่างให้เด็กเห็น หรือพาเข้าร้านเกมด้วยตนเอง  ปล่อยให้เป็นไปตามวัยหรือสิ่งแวดล้อมของเขา  ในที่สุดเมื่อเลี่ยงไม่ได้เพราะวัยและสิ่งแวดล้อมคือสมัยนิยม,เพื่อนฝูง ก็พิจารณาช่วยเลือกเกมที่ประเทืองปัญญาบ้าง  หรือจำกัดเวลาการเล่นบ้าง หาสิ่งทดแทนต่างๆบ้างๆ เช่น กีฬา งานอดิเรก   ให้ความรักความสนิทสนม   ไม่สนับสนุนการซื้อจนเกินขอบเขตบ้าง ฯลฯ.

         ถ้าเราเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาพิจารณาหรือโยนิโสมนสิการในปฏิจจสมุปบาท ก็จะพบเหตุที่เป็นปัจจัยได้เช่นกัน   ในการเล่นวิดิโอเกมนั้น  เนื่องจากแรงจูงใจที่ดึงดูดผู้เล่นให้ติดตรึงอยู่ในจอภาพ และการบังคับควบคุมบังคับกายที่เป็นไปอย่างค่อนข้างจำเจสมํ่าเสมอ พร้อมทั้งความชอบใจและสมัยนิยมอยู่ในทีอยู่แล้ว  และดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องฌาน สมาธิ  ว่าเป็นสภาวะธรรมชาติของชีวิตอย่างหนึ่ง จึงเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาโดยทั่วไป ไม่ละเว้นแม้แต่ลูกเด็กเล็กแดง   ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเกิดแก่ผู้เล่นทุกท่านที่มีความสนุกสนานเพลิดเพลินได้เป็นธรรมดาโดยไม่รู้ตัว  กล่าวคือ เมื่อเล่นเกมเป็นไปอย่างสนุกสนานและเมามันนั้น  จึงเป็นไปในลักษณะเดียวกับการใช้ อริยะบถบดบังทุกข์  หรือการวิตก วิจาร ในฌานนั่นเอง กล่าวคือเกิด วิตก จิตแน่วแน่จดจ่ออยู่แต่อยู่ในเกม  หรือเกมที่เล่นนั้นเป็นที่กำหนดของจิตโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง หรือทำหน้าที่เหมือนคำบริกรรม"พุทโธ"หรือลมหายใจ     วิจาร กล่าวคือจิตเคล้าหรือแนบแน่นอยู่กับเกมนั้นอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน กล่าวคือเริ่มแน่วแน่เป็นสมาธินั่นเองแต่เป็นไปตามอาการธรรมขาติของจิตจึงไม่รู้ตัวเช่นกัน  หรือเป็นขณิกสมาธิคือจิตแน่วแน่อยู่กับเกมที่เล่นนั้นส่วนใหญ่  แล้วเริ่มเลื่อนไหลเข้าสู่สภาวะเป็นสมาธิอย่างแนบแน่นขึ้นไปทุกขณะ  จนจิตเป็นสมาธิได้ระดับหนึ่งแล้ว องค์ฌานอื่นๆจึงเกิดขึ้นโดยอาการของธรรมชาตินั่นเอง คือเกิด ปีติ  สุข  เอกัคคตา ขึ้น   กล่าวคือจะมีอาการ ปีติ อิ่มเอิบ ซาบซ่าน ที่เป็นไปหรือแสดงออกในลักษณะความตื่นเต้น เร้าใจ ถ้าเป็นเด็กเล็กๆจะสังเกตุได้ง่ายจากอาการกระโดดโลดเต้น  อุทานต่างๆ      สุข แล้วมีความรู้สึกที่เป็นสุข สบาย ไม่กังวลสนใจในเรื่องสิ่งใด ลืมหน้าที่ ความกลัว ความกังวลต่างๆไปชั่วขณะ     เอกัคคตา คือจิตแน่วแน่เป็นเอกอยู่แต่ในเกมเป็นสำคัญ   ดังนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่เกิดขึ้นก็เพราะการที่เล่นเกมจนจิตเป็นฌานสมาธิโดยธรรมชาติ  แล้วจึงก่อเป็นทุกข์โทษภัยขึ้นแก่เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก

         เหตุที่เป็นโทษนั้นก็คือ อำนาจของฌานสมาธิหรือฌานวิสัยนั้นมีกำลังแรงกว่าอาการทางจิตอื่นๆตามที่ได้กล่าวไว้ในเรื่องฌานสมาธิ   เหตุเพราะในขณะที่เกิดฌานสมาธิอันเกิดแต่จิตเป็นเหตุปัจจัยนั้น  จิตที่ปกติเป็นผู้บงการกายนั้น ได้สั่งกายให้มีการคัดหลั่งสารชีวเคมีหรือฮอร์โมนที่มีอยู่ในกายออกมา  สารชีวเคมีเหล่านี้เองที่ทำหน้าที่ออกฤทธิ์เป็นตัวควบคุมสมองโดยตรง แล้วจึงส่งผลต่างๆออกมาที่จิตและกายอีกครั้งหนึ่ง (มีกล่าวไว้ในเรื่องติดสุข)  กล่าวคือ ทางกายเกิดอาการ เร้าใจ ซาบซ่าน กายเบาสบาย  ถ้าท่านสังเกตุในเด็กเล็กๆที่เล่นเกมอย่างเมามัน จะสังเกตุเห็นอาการกระโดดโลดเต้น บางครั้งมีอาการซาบซ่านกุมอวัยวะเพศโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย  ต่างๆเหล่านี้เป็นอาการของปีติอย่างหนึ่งนั่นเอง  ส่วนทางจิตนั้น ก็มีความรู้สึกเป็นสุข สบาย คลายความกังวลความกลัว ลืมข้าวปลาและหน้าที่ต่างๆ เพลิดเพลินอย่างเป็นสุขเกิดร่วมไปด้วยเช่นกัน  พร้อมทั้งมีจิตที่แน่วแน่อยู่ในเกมนั้นๆ  สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นและเป็นไปตามธรรมชาติทั้งสิ้น จึงเกิดขึ้นกับทุกคนไม่มีข้อยกเว้นใดๆ เป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตา  หรือเพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงย่อมต้องเกิดขึ้น และเป็นไปอย่างแน่นอน

         กล่าวดังนี้แล้ว  ถ้ามิได้โยนิโสมนสิการโดยละเอียดและแยบคายแล้ว ก็จะเกิดความคิดอย่างผิดๆหรืออวิชชาขึ้นได้ว่า  ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับเป็นการฝึกเด็กให้เป็นสมาธิ  ก็เป็นผลดีแล้วนี่   แต่ไม่ใช่ เหตุการณ์กลับตาลปัตรเสีย  กลับกลายเป็นผลร้ายตลอดชีวิตของเด็กในที่สุด   ลองพิจารณาดู เด็กบางคนเล่นเกมได้ครั้งละ4-5ชม. แต่พออ่านหนังสือ5-10นาที ก็ง่วงเหงาหาวนอนเสียแล้ว  โดยทั่วไปมีอาการหลุกหลิก อยู่ไม่เป็นสุข

         เพราะเมื่อเด็กจดจ่อจดจ้องติดเพลินเพลินอยู่ในเกม  จึงเท่ากับอยู่ในฌานสมาธิอย่างเบาบางอยู่ตลอดเวลา  จึงรู้สึกเป็นสุข สนุกสนาน จนลืมกินข้าวปลาอาหารต่างๆได้เป็นนานๆ เพราะได้เสพรสชาดอันเป็นสุขและกำลังต่างๆอันเกิดขึ้นจากสารคัดหลั่งนั่นเอง  และเมื่อเล่นอย่างต่อเนื่องบ่อยครั้ง ครั้งละนานๆ จึงย่อมสั่งสมเป็นนิสัยเคยชินหรือการสั่งสมต่อความรู้สึกรับรู้(สุขเวทนา)ที่เกิดขึ้นนั้น  หรือเกิดองค์ธรรมสังขารในปฏิจจสมุบาทอันเนื่องจากความไม่รู้(อวิชชา)  เด็กจึงจดจำรสชาดอันแสนอร่อยสนุกเพลินของความรู้สึก(เวทนา)ที่เกิดขึ้นนั้นโดยไม่รู้ตัวสักนิด   สุขเวทนาอันมีองค์ฌานเป็นเครื่องหนุนนี้มีกำลังแรงกว่าความรู้สึกรับรู้(เวทนา)อันเกิดแต่โดยทั่วไปมากมายนัก เพราะมีอาการของจิตที่เป็นสมาธิบังคับการหลั่งสารชีวเคมีร่วมด้วย จึงย่อมแรงเข้มเด่นชัดเหนือความรู้สึกรับรู้โดยทั่วไปในชีวิตมากมายนัก  จึงเกิดปัญหาต่างๆขึ้น

         เด็กเล็กนั้นมีหน้าที่ต้องเล่าเรียน และเล่นเป็นธรรมดา  การเล่าเรียนโดยทั่วไปนั้นเป็นของที่น่าเบื่อหน่ายในความรู้สึกของเด็กๆแทบทุกคนเมื่อเทียบกับการเล่นเป็นสุขสนุกสนาน  โดยเฉพาะที่ยังอ่อนเยาว์อยู่ จึงย่อมยังเยาว์ทั้งสติและปัญญาด้วย จึงไม่เข้าใจความสำคัญความจำเป็นของการศึกษาหรือหน้าที่อื่นๆได้เป็นธรรมดา  โดยปกติจึงยึดความสุขสนุกเป็นเกณฑ์อยู่แล้วโดยธรรมชาติของเด็ก  แต่เมื่อมาพบกับความสุขสนุกสนานอันเคยชินที่สั่งสมจาการเล่นเกมอย่างเมามันไว้ ซึ่งมีอำนาจของสมาธิเป็นเครื่องหนุนอยู่เบื้องหลังซึ่งมีอำนาจแรงเข้มเด่นชัดกว่าการเล่น หรือการเล่าเรียนทั่วไปมากนัก   ดังนั้นเมื่อมาเล่าเรียนหรือเล่นตามปกติวิสัยของเด็กธรรมดา โดยไม่มีเครื่องหนุน  จึงเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อสิ่งต่างๆเหล่านั้น อย่างรวดเร็ว เพราะองค์ประกอบของสมาธิอันสำคัญอย่างยิ่งสิ่งหนึ่งคือต้องมีความรู้สึกสบายใจหรือชอบใจในสิ่งที่ตัวกระทำด้วยจึงจะเกิดขึ้นได้ง่าย   และเด็กได้ผ่านประสบการณ์ความรู้สึกที่สุขสบายสนุกที่ยิ่งกว่ามาแล้วจึงย่อมไม่พึงพอใจเทียบเท่าได้กับความสุขสนุกสนานอันมีองค์ฌานเป็นเครื่องหนุนจากการเล่นเกม  ประกอบกับความเยาว์ทางด้านสติปัญญา  จึงไม่สามารถตั้งจิตได้ดังผู้ใหญ่ซึ่งมักจะมีอาการติดเพลินเกิดขึ้นแทน,   เมื่อไม่มีความสามารถตั้งจิตได้ดังผู้ใหญ่ เด็กนั้น จึงกลับกลายเป็นว่า เมื่อเด็กกระทำอะไรไปสักพักจึงเบื่อหน่ายเพราะไม่สามารถตั้งจิตแน่วแน่กับสิ่งอื่นๆได้  จึงใช้วิธีเปลี่ยนจิตแบบง่ายๆตามสติปัญญาของเด็กโดยการหันไปหาสิ่งอื่นๆแทนที่หวังว่าจะสนุกเร้าใจ(ปีติ)ได้ดังเช่นเกม จึงทดลองค้นหาอยู่รํ่าไป จนแลดูว่าอยู่ไม่เป็นสุข ซุกซนเกินทั่วไป  เล่าเรียนก็ไม่มีสมาธิ  กลายเป็นสังขารที่สั่งสมเคยชินในที่สุด(องค์ธรรมสังขารในปฏิจจสมุปบาท)   ล้วนเกิดขึ้นก็เพราะความต้องการหาสิ่งเร้าสนุกตื่นเต้นเหมือนที่คุ้นเคยได้รับเมื่อเวลาเล่นวิดิโอเกมนั่นเอง  กลายเป็นเด็กสมาธิสั้น กว่าปกติทั่วไปเป็นปัญหาติดตัวไปโดยตลอด  กลายเป็นกรรมวิบากของเด็ก  รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยซึ่งย่อมรับผลกรรมนั้นร่วมด้วยเช่นกัน

         ในเด็กโตขึ้นมา  ก็อาจไม่เป็นสมาธิสั้น  แต่ก็จะมีผลต่อจิตใจของเขา  คือจิตกร้าว จึงอวดเก่ง ดื้อรั้น  กลายเป็นคนกร้าวร้าวขึ้นกว่าเดิม  โดยทั่วไปเข้าใจกันว่าเกิดแต่เกมที่เล่นมีความรุนแรงกร้าวร้าว  แต่ตามความเป็นจริงนั้นกลับเป็นเพราะจิตนั้นถูกควบคุมอยู่ภายใต้อำนาจของฮอร์โมนที่คัดหลั่งออกมาเป็นปริมาณสูงกว่าเด็กทั่วไปนั่นเอง

         เด็กที่เล่นเป็นเวลานานๆนั้น  เมื่อเลิกเล่นอาจมีอาการต่างๆร่วมด้วย เช่น แน่นหน้าอก  หรืออึดอัด  อาเจียร  ท้องเดินโดยไม่มีสาเหตุ  และถ้าเล่นเกมติดต่อกันระยะเวลานานสามารถเกิดอาการช็อคขึ้นได้เหมือนกัน  ซึ่งเกิดจากการเสพสารคัดหลั่งสูงเกินขนาดเป็นเวลานานนั่นเอง  เหล่านี้ก็เป็นอาการแสดงอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า เด็กได้เล่นมากเกินไป และได้ไหลเลื่อนลงสู่สภาวะของฌานสมาธิโดยธรรมชาติ  จนเคยชินแล้ว

         การแก้ไขทางปัญญานั้น มิสามารถใช้กับเด็กได้เหมือนกับผู้ใหญ่ เนื่องจากยังเยาว์ทั้งสติและปัญญาอยู่  จึงต้องใช้วิธีทางโลกดังที่กล่าวข้างต้นแล้วเป็นการป้องกัน หรือปรึกษาจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

         กระบวนการจิตเหล่านี้ดำเนินไปตามธรรมชาติหรือดำเนินไปตามวงจรปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง เมื่อเกิดขึ้นจึงไม่รู้ตัว ทั้งในตัวเด็กเองตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครอง

_____________

 

กลับสารบัญ