หัวข้อธรรม ๔๐

ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา

 คลิกขวาเมนู

        ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นอนัตตา  เพราะล้วนเป็นสังขารที่เกิดขึ้น จากการที่มีเหตุต่างๆมาประชุมปรุงแต่งเป็นปัจจัยแก่กันและกันจึงเกิดขึ้นชั่วขณะๆ  จึงไม่มีตัวตนของมันเองจริงๆ  จึงเข้าครอบครองยึดถือเป็นเจ้าของไม่ได้  จึงล้วนไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา หรือของใครๆ  และย่อมมีการบีบคั้นให้แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุต่างๆที่มาประกอบปรุงแต่งกัน  จึงไม่เที่ยง  เมื่อไม่เที่ยงจึงเป็นทุกข์จากการคงอยู่ในสภาพเดิมตามที่ปรารถนาไม่ได้ในที่สุด

        ๑.รูปขันธ์ เกิดจากการปรุงแต่งของธาตุ ๔  จึงเกิดขึ้น  และธาตุทั้ง ๔ ก็มีการแปรปรวนระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อหมดเหตุก็เสื่อมแตกดับไป

                อันมีธาตุดิน สภาวะของแข้นแข็ง แผ่กินเนื้อที่ เช่นอวัยวะต่างๆ  หรือก็คือธาตุต่างๆทั้ง ๑๑๘ ธาตุ

                ธาตุน้ำ สภาวะที่เอิบอาบดูดซึม

                ธาตุลม สภาวะที่ทำให้เคลื่อนไหว ค้ำจุนระบบต่างๆ

                ธาตุไฟ สภาวะที่ทำให้ร้อน อบอุ่น เสื่อมโทรม การสันดาปต่างๆในร่างกาย

ธาตุดิน    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป ธาตุน้ำ    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป ธาตุลม    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป ธาตุไฟ anired06_next.gif รูปขันธ์(ร่างกาย)

รูปขันธ์หรือร่างกาย จึงไม่เที่่ยง มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา   จึงเป็นทุกข์ จากการคงสภาพทนอยู่ไม่ได้   เป็นอนัตตาควบคุมบังคับไม่ได้

        ๒.เวทนาขันธ์  เกิดจากเหตุต่างๆ อันมี อายตนะภายนอก๑ อายตนะภายใน๑ วิญญาณ๑ สัญญา๑ การผัสสะ๑  มาเป็นปัจจัยปรุงแต่งจึงเกิดขึ้นได้ เมื่อหมดเหตุก็เสื่อมดับไป ดังภาพ

                                                                    ผัสสะ

อายตนะภายนอก    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป อายตนะภายใน  วิญญาณ  anired06_next.gif  สัญญาจํา   เวทนา จึงเกิดขึ้นมาได้

เวทนาขันธ์ จึงไม่เที่่ยง มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา   จึงเป็นทุกข์ จากการคงสภาพทนอยู่ไม่ได้   เป็นอนัตตาควบคุมบังคับไม่ได้

        ๓.สัญญาขันธ์ เกิดจากการจำได้ที่สั่งสมอบรมแต่อดีตของเหตุปัจจัยต่างๆ  อีกทั้งความจำอันอาศัยสมองอันเป็นส่วนหนึ่งของรูปขันธ์ และเกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัยจากการผัสสะมากระตุ้นเร้าอีกด้วย  จึงเกิดขึ้นได้ และเมื่อหมดเหตุก็เสื่อมดับไป

                                                                    ผัสสะ

อายตนะภายนอก    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป อายตนะภายใน  วิญญาณ  anired06_next.gif  สัญญา(จํา)   เวทนา สัญญา(หมายรู้) สัญญาจำและหมายรู้จึงเกิดขึ้นได้

สัญญาขันธ์ จึงไม่เที่่ยง มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา   จึงเป็นทุกข์ จากการคงสภาพทนอยู่ไม่ได้   เป็นอนัตตาควบคุมบังคับไม่ได้

        ๔.สังขารขันธ์ ธรรมหรือสิ่งที่ปรุงแต่งจิต(อารมณ์ในทางโลกต่างๆ)ให้เกิดสัญเจตนาความคิดอ่านให้เกิดการกระทำต่างๆทั้งดี ชั่ว และกลางๆ ออกมาได้ทั้งทาง กาย วาจา ใจ  ก็ล้วนเกิดจากการเหตุปัจจัยปรุงแต่งของขันธ์ทั้ง ๕ จึงจักเกิดขึ้นมาได้  เมื่อหมดเหตุ ก็เสื่อมดับไป

                                                                    ผัสสะ

อายตนะภายนอก    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป อายตนะภายใน  วิญญาณ  anired06_next.gif  สัญญา(จํา)   เวทนา สัญญา(หมายรู้) สังขารขันธ์ อารมณ์ทางโลกต่างๆ จึงเกิดขึ้นได้  เมื่อหมดเหตุก็เสื่อมดับไป

สังขารขันธ์ จึงไม่เที่่ยง มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา   จึงเป็นทุกข์ จากการคงสภาพทนอยู่ไม่ได้   เป็นอนัตตาควบคุมบังคับไม่ได้

         ๕.วิญญาณขันธ์ ก็เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งของผู้มีชีวิต ที่เมื่ออายตนะภายนอก และอายตนะภายใน มาจรกระทบกัน ย่อมเกิดขึ้น เป็นธรรมดาของชีวิต เหมือนดั่งขันธ์อื่นๆ  เมื่อหมดเหตุก็เสื่อมดับไป (อีกทั้งเป็นตัวเชื่อมประสานการทำงานของขันธ์ต่างๆอีกด้วย)

อายตนะภายนอก    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป อายตนะภายใน  วิญญาณ

วิญญาณขันธ์ จึงไม่เที่่ยง มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา   จึงเป็นทุกข์ จากการคงสภาพทนอยู่ไม่ได้   เป็นอนัตตาควบคุมบังคับไม่ได้

         ชีวิต ก็คือสิ่งปรุงแต่งของขันธ์ทั้ง ๕  ดังนั้นชีวิตที่ล้วนเกิดขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เพราะคงสภาพทนอยู่ไม่ได้ เป็นอนัตตา แล้วจะเที่ยงได้อย่างไรกัน  ชีวิตจึงไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ดังสังขารทั้งปวง

 

หัวข้อธรรม

กลับหน้าเดิม

กลับสารบัญ