ประมวลภาพ วงจรปฏิจสมุปบาท
แสดงวงจรปฏิจจสมุปบาท
นอนเนื่องอยู่ในจิต อาสวะกิเลส โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส มรณะ พรั่งพร้อมด้วย โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา อันวนเวียน เร่าร้อนเผาลน เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา |
เพราะยังมีอาสวะกิเลส จึงเป็นเหตุปัจจัย ร่วมกับอวิชชา เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนาม-รูป เพราะนาม-รูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา |
แบบอนุโลม หรือสมุทยวาร การเกิดของทุกข์
แสดงภาพแบบปฏิโลม หรือนิโรธวาร หรือการดับไปแห่งทุกข์
ภาพขยายความ วงจรชรา(วงจรเล็กสีแดง) อยู่ภายในวงจรปฏิจจสมุปบาท(สีน้ำเงิน)
ขันธ์ทั้ง ๕ ที่วนเวียนปรงุแต่งแปรปรวนเป็นวงจรอยู่ใน"ชรา"จึงยาวนาน ต่างล้วนประกอบด้วยอุปาทานเข้าครอบงำแล้วทั้งสิ้น คือ
รูปูปาทานขันธ์(อุปาทานรูป), เวทนูปาทานขันธ์(อุปาทานเวทนา), สัญญูปาทานขันธ์(อุปาทานสัญญา), สังขารูปาทานขันธ์(อุปาทานสังขาร), และวิญญาณูปาทานขันธ์(อุปาทานวิญญาณ)
อันต่างล้วนเป็นอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์ ย่อมเร่าร้อยเผาลนกว่าขันธ์ ๕ ธรรมดา ที่เป็นเพียงทุกข์ธรรมชาติซึ่งต้องเป็นเช่นนี้เองเป็นธรรมดา
ด้วยแฝงด้วยอุปาทานความยึดมั่นยึดถือตามกิเลสของตัวตน หรือตัวกู ของกู
อาสวะกิเลส
มรณะ สฬายตนะ สัญญูปาทานขันธ์
เวทนูปาทานขันธ์
ชาติ (สังขารขันธ์ แปรเป็นสังขารูปาทานขันธ์เกิดมโนกรรมคิดนึก เวทนา (กรรม) (อกุศลสัญเจตนา) (อกุศลสังขารขันธ์) ภาพวงจรปฏิจจสมุปบาท แบบขยายความ"ชรา"เต็มรูปแบบโดยพิศดาร |
ภาพแสดงปฏิจจสมุปบาท แบบสมุทยวาร พร้อมรายละเอียดของอุปาทานขันธ์ ๕ ในชรา อันเป็นอุปาทานทุกข์ เป็นลำดับ อีกแบบหนึ่ง
เมื่อเกิดมโนกรรม ทั้งใน"ชาติ" และสังขารูปาทานขันธ์ใน"ชรา" ก็อุเบกขาเสีย
เหตุก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นต่อเนื่องย่อมไม่มี ทุกข์ที่เกิดมาแล้วก็ย่อมเสื่อมดับไป
ภาพขยายในชรา ล้วนเป็นอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์ เพราะเกิดจากสังขารูปาทานขันธ์ในชาติ อันถูกครอบงําโดยอุปาทานแล้ว |
วงจรแบบ ขยายกระบวนจิตในองค์ธรรม ชรา
เปรียบเทียบกระบวนจิตของขันธ์ ๕ เมื่อฟุ้งซ่านวนเวียน กับวงจร"ชรา"อันฟุ้งซ่านวนเวียนเหมือนกันแต่ล้วนเป็นอุปาทานขันธ์อันเร่าร้อนกว่าปกติ
ธรรมารมณ์ + ใจ + มโนวิญญูาณขันธ์
สังขารขันธ์
มโนกรรม คิดนึก วงจรแสดงขันธ์ทั้ง๕ ที่เกิดการคิดนึกปรุงแต่งจนเป็นวงจร |
ธรรมารมณ์
+ ใจ(รูปูปาทานขันธ์)
สังขารูปาทานขันธ์
มโนกรรมคิดที่เป็นทุกข์ วงจรอุปาทานขันธ์ทั้ง๕ ที่ล้วนถูกครอบงําโดยอุปาทาน |
ดังนั้นเมื่อเกิดมโนกรรม แล้วอุเบกขาเสีย ย่อมไม่มีเหตุก่อให้เป็นทุกข์ต่อเนื่องอีกต่อไป ดังภาพ ทุกข์ที่เกิดแล้วก็ย่อมเสื่อมดับไป
|