ย้อนกลับ

เจตนา แบบต่างๆ

คลิกขวาเมนู

เจตนา แบบต่างๆในขันธ์ ๕

        เจตนา ความตั้งใจ, ความมุ่งใจหมายทำ, เจตน์จำนง, ความจำนง, ความจงใจ, เป็นเจตสิก(อาการของจิต)ที่เกิดกับจิตทุกดวง เป็นตัวนำในการคิดปรุงแต่ง หรือเป็นประธานในสังขารขันธ์ และเป็นตัวการในการทำกรรม หรือกล่าวได้ว่า เป็นตัวกรรมทีเดียว  ดังพุทธพจน์ว่า

“เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ” แปลว่า เรากล่าว"เจตนา"ว่าเป็นกรรม

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

        เจตนา จึงเป็นสังขารขันธ์อย่างหนึ่ง เป็นธรรมที่ปรุงแต่งจิต ให้เกิดอาการต่างๆของจิต หรืออารมณ์ในทางโลกๆนั่นเอง จัดอยู่ใน"เจตสิก ๕๒"  คือความจงใจ ตั้งใจ ที่ทำให้เกิดกรรม(การกระทำต่างๆ)ขึ้น

        คำว่า"เจตนา"ในทางพุทธศาสนาเนื่องกับขันธ์ ๕ มีอยู่ ๓ เช่น รูปสัญเจตนา(คิดอ่านหรือเจตนาไปปรุงจิตทำให้เกิดสังขารขันธ์คืออารมณ์หรืออาการต่างๆของจิตเช่นโทสะ โมหะ โลภะ หดหู่ ฟุ้งซ่าน ฯลฯ.)   และสัญเจตนานี้ จึงคิดอ่านหรือเจตนาที่ไปปรุงจิต ทำให้เกิดสังขารขันธ์คืออารมณ์หรืออาการของจิตที่เกิดขึ้น จึงเป็นผลให้เกิดกรรมคือการกระทำต่างๆขึ้น กล่วคือ เกิดธัมมสัญเจตนา(อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา)  แล้วจึงเกิดเจตนา(อันเป็นสังขารขันธ์)  แล้วจึงยังให้เกิดสัญเจตนาความคิดอ่านที่จะกระทำหรือกรรมต่างๆขึ้น

ธัมมสัญเจตนา จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดสังขารขันธ์(อารมณ์ต่างๆ)

        ส่วน"ธัมมสัญญา"(สัญญาชนิดจำได้ในอายตนะภายนอกต่างๆที่กระทบนั้น เช่น รูป เสียง ธรรมารมณ์ ฯ.)  จำได้หมายรู้ ในธรรมารมณ์นั้น ตามที่ได้สั่งสมมา จึงเกิดความรู้สึกรับรู้ต่างๆในธรรมารมณ์ที่กระทบนั้น (เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเวทนาคือการเสวยอารมณ์ต่างๆขึ้น)

ธัมมสัญญา จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเวทนาต่างๆ

        ธัมมสัญเจตนา  สัญญาหมายรู้ในธรรมารมณ์หรือรูปชนิดหนึ่ง คือทำให้คิดอ่านไปปรุงจิต อันเนื่องจากเวทนาความรู้สึกที่เกิดจากการเห็นรูปนั้น ตามที่ได้สั่งสมมา ไปปรุงจิตทำให้เกิดสังขารขันธ์ คืออารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆหรืออาการของจิตต่างๆนั่นเอง เช่น ราคะ โทสะ โมหะ หดหู่ ฟุ้งซ่าน ฯ. (กล่าวคือ จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดอารมณ์หรือสังขารขันธ์ต่างๆขึ้นนั่นเอง)

ธัมมสัญเจตนา จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดสังขารขันธ์คืออารมณ์หรืออาการของจิตต่างๆ ร่วมด้วยเวทนาเป็นเหตุ

        สัญเจตนาหรือเจตนา ความจงใจคือคิดอ่านหรือเจตนาที่ไปปรุงจิตต่ออารมณ์คือสังขารขันธ์ที่เกิดขึ้น ยังให้เกิดการกระทำต่างๆ(กรรม)ได้ทั้งดี ชั่ว และกลางๆ  ออกมาได้ทั้งทางกาย วาจา หรือใจ  (ทำให้เกิดการกระทำหรือกรรมเช่น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม) (ดูรูปด้านล่างประกอบ)

สัญเจตนา จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดกรรม(การกระทำ)ต่างๆ

กล่าวโดยย่อ

        ธัมมสัญญา ปรุงจิตให้เกิดเวทนาต่างๆ คือ เสวยอารมณ์ จึงเป็นสุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา

        ธัมมสัญเจตนา ปรุงจิตให้เกิดสังขารขันธ์หรืออารมณ์คืออาการของจิตต่างๆ เช่น ราคะ โทสะ โมหะ หดหู่ ฟุ้งซ่าน ฯลฯ.

        สัญเจตนา ความจงใจหรือเจตนาต่ออารมณ์ที่เกิด ยังผลให้เกิดกรรมการกระทำต่างๆ คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม

ธัมมสัญญา เป็นไปในแนวเดียวกันกับอายตนะภายนอกอื่นๆ คือ รูปสัญญา(ในรูป) สัททสัญญา(ในเสียง) คันธสัญญา(ในกลิ่น) รสสัญญา(ในรส) โผฏฐัพพะสัญญา(ในสัมผัส) ธัมมสัญญา(ในธรรมารมณ์)  ล้วนเป็นสัญญาชนิดจำได้หมายรู้ที่ปรุงจิตให้เกิดเวทนาต่างๆเช่นกัน

ดังตัวอย่าง

                                                                         ผัสสะ     ธัมมสัญญา                        ธัมมสัญเจตนา

ธรรมารมณ์(คิดอันเป็นเหตุ)    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป ใจ ย่อมทำให้เกิดขึ้น โดยธรรม มโนวิญญาณ  การประจวบกันของปัจจัยทั้ง ๓ ข้างต้น  สัญญาจํา ย่อมทำให้เกิด  เวทนา ย่อมทำให้เกิด สัญญาหมายรู้  ย่อมทำให้เกิด สังขารขันธ์(เช่น เจตนา-ตั้งใจ) [ เป็นปัจจัยไปปรุงจิต ให้เกิดสัญเจตนาเกิดสัญเจตนา(คิดอ่านกระทำ) จึงทำให้เกิดกรรม (คือ การกระทำต่างๆ ทางใจ(มโนกรรม)เช่นความคิดเป็นทุกข์อันให้โทษ(คิดที่เกิดจากสังขารขันธ์นี้เป็นผล) ]     แสดงขันธ์ ๕ อย่างละเอียด ของสัญญา

 

                                         ผัสสะ      รูปสัญญา                          รูปสัญเจตนา

รูป    กระทบกัน เช่น ตาเห็นรูป ตา ย่อมทำให้เกิดขึ้น โดยธรรม จักขุวิญญาณ  การประจวบกันของปัจจัยทั้ง ๓ ข้างต้น  สัญญาจํา ย่อมทำให้เกิด  เวทนา  สัญญาหมายรู้   สังขารขันธ์ [ anired06_next.gifเกิดสัญเจตนา(เจตนา,ตั้งใจ) จึงทำให้เกิด กรรม (คือ การกระทำต่างๆทางกาย วาจา หรือใจเช่นมโนกรรม]

 

  กลับหน้าเดิม

 

 หัวข้อต่อไป anired06_next.gif

 

 

กลับหน้าเดิม